วันเสาร์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2551

การรวมโลก

สวัสดีครับ สิ่งที่ผมอยากจะกล่าวถึงในฉบับนี้คงจะพอให้ใครหลายคนได้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตที่ค่อนข้างจะไม่ไกลตัวเราเท่าไหร่นัก กับเศรษฐกิจทั่วโลกที่ช่วงนี้กำลังผันผวน สภาพของจำนวนคนที่จะตกงานมีเพิ่มสูงขึ้น ราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่สิ่งที่ผมอยากจะพูดถึงนี้หลายๆ คนคงเชื่อว่า เป็นไปได้ บางคนอาจจะบอกว่า คงอีกนาน และบางคนบอกว่า เป็นไปไม่ได้แน่นอน แต่สำหรับสิ่งที่ผมอยากจะกล่าวถึงคือ "การรวมโลก" ผมจะแบ่งเป็นหัวข้อให้พอเห็นภาพคร่าวๆ ว่าทำไมอาจจะต้องมีการรวมโลกเกิดขึ้น ถ้าสนใจในเรื่องนี้ อยากจะให้ลองอ่านหนังสือ The World is flat ของ Thomas L.Friedman มาดูกันครับว่าความเป็นไปได้ในการรวมโลกจะเกิดจากสาเหตุใดบ้าง

1. ระบบเศรษฐกิจของโลก

- อันเนื่องมาจากการสื่อสารในยุคโลกเครือข่ายไร้พรหมแดน ทำให้ระบบการเงินของโลกมีความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ตลาดในซีกโลกนึงผันผวน อีกซีกโลกนึงก็จะผันผวนตามในไม่กี่อึดใจ เราจะเห็นได้ว่า ข้อมูลข่าวสารทางด้านตลาดเงิน ตลาดทุน ตลาดน้ำมัน ฯลฯ มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างมากมายต่อเศรษฐกิจโดยภาพรวมของโลก การรวมตัวของกลุ่มธุรกิจต่างๆ เพื่อผยุงอำนาจในการต่อรอง เริ่มมีความเป็นปึกแผ่นมากขึ้นในการต่อรอง การรวมกลุ่มสกุลเงินของกลุ่มประเทศยุโรป การรวมตัวของกลุ่มผู้ค้าน้ำมัน

2. การเปลี่ยนแปลงของโลก ทางด้านสภาวะแวดล้อม สิ่งที่จะเป็นผลตามมาในอีกไม่ช้านี้คือ

- อุทกภัย อุบัติภัยขั้นรุนแรง และคาดไม่ถึง เช่น การเกิดแผ่นดินไหว การเกิดซึนามิ การเกิดพายุทอนาโดที่ในแต่ละปี ขนาดและการทำลายล้างมีขนาดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และที่สำคัญน้ำแข็งที่อยู่ขั้วโลกเริ่มละลาย และภาพที่เราได้เห็นเชื่อได้ว่าเราอาจจะเห็นอะไรบางอย่างที่ไม่น่าเชื่อเกิดขึ้นในอีกไม่ช้าไม่นาน

- การกันดารอาหาร - เพราะเมื่อผลผลิตไม่เกิดผลตามฤดูกาล สภาพน้ำท่วมและทำลายพื้นที่ในการเพาะปลูก น้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้น เราจะเห็นได้ว่าพืชผลบางอย่างสามารถปลูกได้ดีในที่ใดที่หนึ่ง แต่ถ้าลองคิดง่ายๆว่า เมื่อพื้นที่นั้นหายไปจากโลกอันเนื่องมาจากสาเหตุใดก็ตาม สิ่งที่ตามมาคือ "การกักตุน" และเรื่องของราคาก็มีผลกระทบต่อปัจจัยในการดำรงชีพทางเศรษฐกิจอีกด้วย และการกักตุนนี้เองอาจจะทำให้ความอดอยากมีมากขึ้นกับการที่ประชากรบนโลกนี้ไม่ได้ลดลงตาม

- โรคระบาด - เชื้อไวรัส แบคทีเรีย เชื้อบางประเภทที่เคยหายไปกลับเกิดขึ้นอีกอย่างไม่น่าเชื่อ สิ่งที่เกิดขึ้นคือ สัตว์ที่เป็นพาหะมีการย้ายถิ่นฐาน มีการปรับตัวในการดื้อยา อุณหภูมิของโลกเปลี่ยนไปทำให้เชื้อโรคบางประเภทสามารถอยู่ในอุณหภูมิที่เหมาะสมในการเจริญเติบโต นักวิทยาศาสตร์เริ่มมีการตัดต่อยีนส์ หรือพันธุกรรมเพื่อให้ผลผลิตบางอย่างต่อสู้กับเชื้อรา เชื้อโรค แมลง ทำให้ผลที่ได้ก็กลับเข้ามาสู่มนุษย์และมีการพัฒนาผลแทรกซ้อนจากคนรุ่นหนึ่งไปสู่อีกรุ่นหนึ่ง ทำให้โรคมะเร็งในคนรุ่นหลังมีเพิ่มสูงขึ้น เราจะเริ่มเห็นมีการรวมกลุ่มกันของนักวิทยาศาสตร์ในการค้นค้นยาต่อต้านโรคต่างๆ ที่เข้ามาแก้ไขโรคหลายโรคที่ยังรักษาไม่ได้เช่น โรคเอดส์ โรคมะเร็ง โรคบางโรคที่เกิดจาพันธุกรรม ฯ

3. ความรุนแรงที่เกิดจากปัจเจกบุคคล อำนาจของเงิน และความเชื่อ

- สิ่งที่เกิดขึ้นในโลกใบนี้ของกลุ่มปัจเกจบุคคล ผู้มีอำนาจ นายทุน หรือนักลงทุน เราจะเห็นได้ว่าเป็นกลุ่มที่รักพวกพ้อง เห็นแก่ประโยชน์ทางด้านใดด้านหนึ่ง และมีอำนาจในการต่อรองทางธุรกิจ บางทีการทำธุรกิจบางประเภทก็ไร้ซึ่งศีลธรรม จรรยาบรรณ จริยธรรม มโนธรรม ซึ่งเราจะเห็นถึงการขยายเครือข่าย หรือมีการชิงพื้นที่ทางการค้าให้ได้มากที่สุด ทำให้ระบบธุรกิจเกิดการผูกขาดแบบสิ้นเชิง บางธุรกิจก็ต้องมีอันล้มหายตายจากไป

- อำนาจของเงินกลายเป็นการบริหารที่ซื้อคนมีความสามารถมาควบคุมคนที่อ่อนแอทางทางด้านความคิด ความรู้ที่ด้อยกว่าให้อยู่ภายใต้กรอบที่หน่วยงานหรือองค์กรของตนเองที่ได้วางไว้ การคดโกงก็จะมีมากขึ้นแบบไร้สามัญสำนึก ซึ่งหลายประเทศถูกการใช้อำนาจของเงินทำการทุจริตเชิงนโยบายในการบริหารประเทศ

- ความเชื่อบางอย่างก็ส่งผลต่อสงครามแบ่งแยกเชื้อชาติ ทำให้เรื่องเล็กๆ ภายในชนชาติกลายเป็นสงครามการสนับสนุนของคนบางประเทศ หรือบางกลุ่มที่มีผลประโยชน์ร่วม บางประเทศเป็นสงครามศาสนา สงครามแบ่งแยกดินแดน ซึ่งยังคงมีให้ได้ยินข่าวกันอยู่เสมอ

สำหรับ 3 หัวข้อดังกล่าวข้างต้น เราจะเห็นได้ว่ามีความเป็นไปได้สำหรับ "คนกลาง" ในการแก้ไขปัญหาของโลกใบนี้ให้อยู่ในระบบที่ควรจะเป็น เพราะเมื่อธรรมชาติได้ตอบสนองสิ่งที่มนุษย์ได้กระทำ โรคระบาดที่ยาบางอย่างไม่สามารถรักษาได้อาจจะทำให้มีการรวมตัวของ "คนกลาง" ในการแก้ปัญหา หรือแม้แต่การปกครองประเทศที่โลกนี้ที่หลายประเทศขาดจริยธรรม เริ่มมีกลุ่มที่พยายามยึดเอาอำนาจของตนมาเป็นการต่อรองจนกลายเป็นการควบคุมกลไกในตลาดโลก เพราะฉะนั้นน่าจะเป็นไปได้เมื่อมี "คนกลาง" ที่จะทำหน้าที่ควบคุม และเชื่อว่าจะมีผลต่อการบริโภค การซื้อขายสินค้ากัน ซึ่งเราเองก็ไม่สามารถทราบได้ว่า "คนกลาง" ผู้นั้นคือใคร จะมาเมื่อไหร่ และจะเกิดอะไรขึ้นกับโลกใบนี้

สำหรับโลกในปัจจุบันเราคงอาจจะยังเห็นไม่ชัดในการรวมโลกอย่างชัดเจน แต่ผมอยากจะให้มองดูการรวมโลกที่เราได้ทำสำเร็จกันไปแล้วอย่างไม่รู้ตัวเลยก็คือ โลกเสมืองจริงบน Internet เพราะว่า"ตัวกลาง" คือระบบคอมพิวเตอร์นั้น ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงในวิถีการดำเนินชีวิตอย่างมาก เพราะเราสามารถรู้ข้อมูลข่าวสารของทุกมุมโลกได้บนหน้าจอ ห้องสมุดขนาดมหึมากลายมาเป็นกล่องสี่เหลี่ยมให้เราค้นหาในสิ่งที่อยากรู้ได้อย่างง่ายดาย แต่สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าเดิมนั้นคือ กลุ่มคน หรือ Community บางกลุ่มได้ทำให้สังคมเกิดความเสื่อม เช่นกลุ่มรักร่วมเพศ กลุ่มหัวรุนแรง กลุ่มล้มล้างการปกครอง ฯลฯ ซึ่งเกิดขึ้นแบบไร้ขอบเขต เพราะฉะนั้น "คนกลาง" ที่จะมาในอนาคตอันใกล้นั้นย่อมทำตัวเหมือนจะมาควบคุมให้เกิด "สันติภาพ" บนโลก ในการควบคุมทั้งโลกความจริง และโลกเสมือนจริง ซึ่งโลกทั้งสองนั้นอาจจะทำให้ "คนกลาง" อาจจะยกมาเป็นประเด็นในการรวมโลก ซึ่งโลกที่สามก็คือ โลกฝ่ายวิญญาณ โดยรวมเป็น "ความเชื่อเดียว" ที่จะอ้างถึงความชั่วร้ายทวีมากขึ้น การไร้ศีลธรรม การเห็นแก่ตัวเอง ฯ ย่อมทำให้ประเด็นเหล่านี้จะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้การรวมโลกนั้นมีความสำเร็จและเป็นไปได้อย่างมาก

สรุปได้ว่า ไม่ว่าโลกของเราจะอยู่ในช่วงไหน เวอร์ชั่นอะไรก็ตามในหนังสือหลายๆ เล่มที่หลายๆ ท่านเคยได้อ่าน เราคงไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เลยว่า เราเองอาจจะยังไม่เตรียมตัว หรือยังไม่พร้อมที่จะยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้นในระยะเวลาอันใกล้ หรือไม่ไกลตัวเกินไปนัก แต่อยากให้เราทั้งหลายอย่าประมาทกับชีวิตของเราครับ

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

สำหรับข่าวคราวทางด้านไอทีช่วงนี้ ผมก็มีข่าวที่เก็บตกมาเล่าให้ฟังครับ

- มีข่าวว่าในต้นปี 2009 เราอาจจะไม่ได้เห็น Steve Jobs ผู้บริหาร apple มานำเสนอสินค้าในงาน MacWorld

- บริษัท Microsoft กำลังทำโทรศัพท์ที่คล้ายๆ กับ iPhone ของ Apple และปีหน้าเราอาจจะได้เห็นการเปิดตัว Windows 7 ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นล่าสุด ที่สนับสนุนการใช้งานจอสัมผัส (Touch Screen)

- Android ระบบปฏิบัติมือถือของ Google ได้ร่วมมือกับบริษัทมือถือหลากหลายแบรนด์ดัง ที่จะได้เห็นกันในปี 2009 นี้

- หลายคนคงรอ iPhone มานานปี 2009 นี้ได้เห็นแน่นอน แต่ราคายังไม่มีการกำหนด

- ปีหน้าเราอาจจะได้เห็น e-Paper เริ่มเปิดตัวกับหลายสินค้า เช่นจอที่บางเป็นกระดาษ นาฬิกาข้อมือ